ไขความลับ 6 สำนักฮวงจุ้ย ศาสตร์เก่าที่ปรับตัวสู่โลกใหม่

Last updated: 23 ก.ย. 2568  |  30 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ไขความลับ 6 สำนักฮวงจุ้ย  ศาสตร์เก่าที่ปรับตัวสู่โลกใหม่

ฮวงจุ้ย…ไม่ได้มีเพียงหนึ่งเดียว แต่คือการเดินทางของศาสตร์ที่แตกแขนงออกเป็นหลากหลายสำนัก แต่ละสายต่างมี มุมมอง วิธีคิด และเครื่องมือเฉพาะ ตั้งแต่การสังเกตภูเขา–แม่น้ำในฮวงจุ้ยชัยภูมิ (Form School), การอ่านพลังด้วยเข็มทิศลั่วพาน (Compass School), ไปจนถึงการวิเคราะห์พลังดาวที่เคลื่อนไหวตามกาลเวลา (Flying Star Feng Shui) และการปรับประยุกต์ให้เข้ากับวิถีตะวันตกหรือจิตวิญญาณยุคใหม่อย่าง Intuitive Feng Shui, BHS และ Nine Star Ki
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ฮวงจุ้ยไม่เคยหยุดนิ่ง แต่ปรับตัวและวิวัฒน์เพื่อให้เข้ากับชีวิตของผู้คนในทุกยุคสมัย

1. โรงเรียนรูปทรง (Form School) : ฮวงจุ้ยชัยภูมิ
หากย้อนกลับไปที่รากฐานดั้งเดิมที่สุดของฮวงจุ้ย สิ่งแรกที่คนจีนโบราณใช้สังเกตคือ “ภูมิประเทศ” และ “รูปทรงธรรมชาติ” นั่นเอง โรงเรียนรูปทรง หรือที่เรียกกันว่า ฮวงจุ้ยชัยภูมิ มุ่งเน้นไปที่การจัดวางบ้านหรือสุสานให้สัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมโดยรอบ

หลักสำคัญของ Form School คือ
ภูเขาและน้ำ : ภูเขาเปรียบเสมือนที่พึ่งพิงและเป็นเกราะกำบัง น้ำคือเส้นทางนำโชคลาภและความมั่งคั่ง
สัตว์สี่ทิศ (Four Celestial Animals) :

มังกรเขียว (ทิศตะวันออก) → พลังเจริญเติบโต
เสือขาว (ทิศตะวันตก) → พลังปกป้อง
หงส์แดง (ทิศใต้) → พลังแห่งชื่อเสียงและการเปิดกว้าง
เต่าดำ (ทิศเหนือ) → พลังเสถียรภาพและความมั่นคง
ชัยภูมิที่ดี : บ้านที่มีภูเขาโอบล้อมด้านหลัง (เต่าดำ), มีลำน้ำไหลด้านหน้า (หงส์แดง), และสองข้างทางมีมังกรเขียว–เสือขาวสมดุลกัน ถือว่าเป็นตำแหน่งที่พลังชี่ไหลเวียนอย่างกลมกลืน
จุดเด่น
Form School มุ่งเน้นการมองด้วยตา สังเกตด้วยใจ ใช้ธรรมชาติเป็นเครื่องชี้วัดโดยไม่พึ่งอุปกรณ์ทางเทคนิค จึงเป็น “พื้นฐานดั้งเดิม” ของฮวงจุ้ยทั้งหมด

 

2.โรงเรียนเข็มทิศ (Compass School) : ความแม่นยำที่เปลี่ยนชะตา

หากโรงเรียนรูปทรง (Form School) มุ่งมองธรรมชาติ ภูเขา และน้ำเป็นหลัก โรงเรียนเข็มทิศ (Compass School) คือศาสตร์ที่นำ “ความแม่นยำทางวิทยาศาสตร์” เข้ามาประกอบ ฮวงจุ้ยสายนี้ใช้ เข็มทิศลั่วพาน (Lo P’an) ซึ่งมีวงแหวนหลายชั้น บรรจุข้อมูลทั้งทิศทาง, ฤดูกาล, ธาตุทั้งห้า, ดาว 24 ภูเขา ไปจนถึงสัญลักษณ์โบราณ

จุดเด่นของโรงเรียนนี้คือการ อ่านพลังงานที่มองไม่เห็น — เสมือนการจับคลื่นที่ไหลผ่านบ้านและพื้นที่อย่างละเอียด โดยเฉพาะการจัดวางบ้านในเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยอาคาร ถนน และพลังงานซับซ้อน Compass School จึงตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุคใหม่ที่ต้องการ “ความแม่นยำ + เหตุผล”

สำหรับ WealthDecor เราใช้ Compass School เพื่อ:

  • กำหนดทิศทางห้องทำงานหรือโต๊ะทำงานให้รับชี่ที่ดีที่สุด
  • หาทิศทางที่ช่วยส่งเสริม การเงิน, สุขภาพ, ความสัมพันธ์ ของเจ้าของบ้าน
  • วางผังออฟฟิศหรือร้านค้าในเมืองที่ไม่มีภูเขาหรือน้ำให้พึ่งพา

3.ฮวงจุ้ยดาวเหิน (Flying Star Feng Shui) : พลังแห่งกาลเวลา

หากเปรียบ Compass School เป็น “การอ่านแผนที่” ฮวงจุ้ยดาวเหิน (Flying Star Feng Shui) ก็คือ “การอ่านพลังงานของกาลเวลา” ดาวเหินแบ่งพลังงานออกเป็น วงรอบ 20 ปี (Period Stars) และดาวที่เปลี่ยนแปลงทุกปี ทุกเดือน หรือแม้กระทั่งทุกวัน

หลักการนี้ทำให้เรามองเห็นว่า บ้านหรือที่ทำงานจะรุ่งเรืองหรือประสบปัญหาในช่วงเวลาใด เช่น:

ดาวการเงินเข้ามุมตะวันออก → บ้านนั้นช่วยสะสมทรัพย์
ดาวเจ็บป่วยเข้าห้องนอน → เจ้าของมักป่วยง่าย
ดาววิชาการเข้าห้องทำงาน → เสริมความคิดสร้างสรรค์


ใน WealthDecor เรานำ Flying Star มาใช้วิเคราะห์ “วงจรโชค” เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจว่า ไม่ใช่ทุกปีที่โชคดี หรือโชคร้ายตลอดไป แต่เราสามารถปรับแก้ด้วย ฮวงจุ้ย + สัญลักษณ์เสริมพลัง เพื่อดึงพลังงานที่ดีที่สุดมาใช้

4.Intuitive Feng Shui : การใช้สัญชาตญาณตอบโจทย์ยุคใหม่
ในยุคปัจจุบัน ฮวงจุ้ยไม่ได้จำกัดเพียงการคำนวณหรือการสังเกตภูมิทัศน์ แต่ยังพัฒนาไปสู่การใช้ สัญชาตญาณ (Intuition)

เป็นการปรับสมดุลพลังงานผ่าน ความรู้สึก และ การรับรู้ส่วนบุคคล
ใช้สี เสียง กลิ่น แสง และความรู้สึกในพื้นที่ เป็นตัวชี้นำว่าบ้านหรือที่ทำงาน “สอดคล้องกับใจเจ้าของ” หรือไม่
เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่น ไม่ต้องการสูตรซับซ้อน แต่เน้นความรู้สึกของ ความสบายและการไหลเวียนของพลังชีวิตจริง ๆ

5.BHS Feng Shui : ศาสตร์ฮวงจุ้ยแบบตะวันตก
BHS (Black Hat Sect Tantric Buddhist Feng Shui) เกิดขึ้นในอเมริกา โดยผสมผสาน พุทธศาสนาทิเบต + ฮวงจุ้ยดั้งเดิม และทำให้เข้าใจง่ายขึ้นสำหรับโลกตะวันตก

ใช้ แผนผังปากัว (Bagua Map) ที่เน้น 9 พื้นที่ชีวิต เช่น ความรัก, การเงิน, สุขภาพ, อาชีพ ฯลฯ
ตีความผ่านการจัดบ้าน จัดโต๊ะ หรือมุมเล็ก ๆ ให้สอดคล้องกับพลังงานของแต่ละด้าน
จุดแข็งคือความง่าย ไม่ต้องใช้เข็มทิศหรือสูตรซับซ้อน → เน้นการสร้างสมดุลและความสุขทางใจของผู้อยู่อาศัย

6.Nine Star Ki : พลังดวงดาวและดวงชะตาส่วนบุคคล
Nine Star Ki เป็นศาสตร์ที่เชื่อมโยงระหว่าง ฮวงจุ้ยและโหราศาสตร์ญี่ปุ่น

ใช้ปีเกิดและเดือนเกิดมาคำนวณว่าเราอยู่ภายใต้อิทธิพลของ “ดาวหลัก” ดวงใด
ช่วยให้เข้าใจบุคลิก, จังหวะชีวิต และช่วงเวลาที่เหมาะสมในการตัดสินใจ
เปรียบเสมือนเครื่องมือที่ทำให้ฮวงจุ้ยไม่ได้หยุดอยู่แค่ “บ้าน” แต่ยังขยายไปสู่ “ตัวบุคคล” ที่เชื่อมโยงกับพลังจักรวาล

เมื่อมองฮวงจุ้ยผ่านสายต่าง ๆ เราจะเห็นว่า Form School คือรากฐานจากธรรมชาติ, Compass School คือการอ่านพลังด้วยความแม่นยำ, Flying Star คือการใส่มิติของเวลา, ส่วน Intuitive Feng Shui, BHS, และ Nine Star Ki คือการขยายศาสตร์ให้เข้ากับยุคสมัยและจิตวิญญาณส่วนบุคคล

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกสายไหน ฮวงจุ้ยก็ยังคงเป็น ศาสตร์แห่งสมดุล ที่ชี้นำให้เรารู้จักอยู่ร่วมกับพลังของฟ้า ดิน เวลา และหัวใจของมนุษย์อย่างกลมกลืน 

สำหรับ WealthDecor เราไม่ได้หยุดเพียงแค่การตีความเชิงประวัติศาสตร์ แต่เน้นการ เชื่อมโยงศาสตร์โบราณกับชีวิตยุคดิจิทัล เช่น:

  • ใช้ Compass School + Flying Star เพื่อจัดวาง Co-working Space ให้เหมาะกับพลังงานการทำงานเป็นทีม
  • ช่วยนักธุรกิจเลือกทำเลร้านค้า โดยดูทั้งทิศทางและวงจรดาวในปีนั้น ๆ
  • เชื่อมโยงกับ ศาสตร์ดิจิทัล เช่น การสร้าง Data Visualization ของแผนที่พลังงานในบ้าน เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจง่าย
  • แนะนำ เครื่องมือเสริม เช่น คริสตัล, ธูปหอม, กลิ่นสมุนไพร หรือแม้แต่โทนสีห้อง เพื่อเสริมพลังงานที่ดาวเหินนำเข้ามา

#WealthDecor #เวลท์เดคอร์#FengShuiWisdom #FormSchool #CompassSchool #FlyingStarFengShui #IntuitiveFengShui #BHSSchool #NineStarKi #ศาสตร์ฮวงจุ้ย #BalanceEnergy #HarmonyAndWealth#ซินแสณัฐธรรมรัตน์#มาสเตอร์ศรัย

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้